หนังมาใหม่ Gary Oldman เกือบได้พากย์เสียงเป็น นายพลกรีวัส
เป็นภาคที่บรรลุผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ปฏิบัติหน้าที่หนังปิดตรีภาคที่ 2 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำรายได้ไปอย่างน่าพึงพอใจ 868 ล้านเหรียญ ทั่วทั้งโลก เป็นหนังที่ทำรายได้ในสหรัฐอเมริกา มากที่สุดในปีนั้น แล้วก็ทำรายได้มากที่สุดชั้น 2 จากรายได้ทั่วทั้งโลก หากว่าในหนังจะมีตัวละครอีกทั้งข้างเจได และก็ ข้างสิธ โผล่มาจำนวนมาก แต่ว่าคนร้ายตัวหนึ่งที่ประทับจิตใจผู้ชมอย่างยิ่งก็คือ นายพลกรีวัส ในรูปภาพลักษณ์ของไซบอร์กที่มี 4 แขน แล้วทุกแขนก็ตวัดไลต์เซเบอร์ได้อย่างกระชุ่มกระชวย นับเป็นภาพลักษณ์ที่แปลกใหม่ในแฟรนไชส์สตาร์วอร์ส
ถึงแม้นายพลกรีวัสจะเป็นตัวละครที่อายุสั้น เขาพบเจอกับจุดจบด้านในภาคนี้ แต่ว่าก็ถือว่าเป็นนักแสดงที่เป็นจำของผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม นายพลกรีวัสเลยได้ไปต่อในการ์ตูนซีรีส์ Star Wars: The Clone Wars ยอดนิยมจนกระทั่งสืบต่อได้ถึง 7 ซีซัน ตอนระหว่างปี 2008 – 2014 แต่ว่าเนื่องด้วยนายพลกรีวัสเป็นตัวละครที่เป็นหุ่นยนต์ ก็เลยไม่ต้องใช้ดาราหนังมาแสดงบทบาทนี้ แต่ว่าจำเป็นต้องใช้ดาราหนังหรือนักบรรยายมาให้เสียง คนที่ได้รับหน้าที่นี้ก็คือ มาธิว วูด นักบรรยาย รวมทั้ง ข้าราชการตัดต่อเสียง แต่ว่าจริงๆแล้ว วูดไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่จะจำเป็นต้องมาปฏิบัติหน้าที่บรรยายเสียงให้นายพลกรีวัส แต่ว่าเป็น เอ็งปรี่ โอลด์แมน ดาราหนังเจ้าบทบาที่พวกเรารู้จักกันดีต่างหาก ที่เป็นตัวเลือกแรกในหน้า
เอ็งปรี่ โอลด์แมน ได้เผยประเด็นนี้ในขณะที่เขาเดินสายโปรโมต ‘Slow Horse’ ซีรีส์เรื่องใหม่ของ Apple TV+ ว่าที่จริงแล้วเขาได้งานบรรยายเสียงเป็นนายพลกรีวัสใน Star Wars: Episode III – Revenge of the Sith เป็นระเบียบแล้ว แม้กระนั้นในตอนนั้นก็กำเนิดปัญหาสหภาพแรงงานในฮอลลีวูดขึ้นมาพอดิบพอดี ซึ่งเขาได้ลงเสียงบรรยายไปนิดหน่อยแล้วด้วย ก่อนที่จะจำเป็นต้องออกมาจากโปรเจกต์นี้มา โอลด์แมนยังกล่าวชื่นชอบว่าการได้ดำเนินงานกับผู้กำกับ จอร์จ ลูคัส นั้น เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากมายก็ผมได้บรรยายเสียงในหนัง Star Wars เป็นนายพลกรีวัส แล้วพอดิบพอดีในตอนนั้นก็กำเนิดปัญหาโต้เถียงกันระหว่างพนักงานที่อยู่ในสหภาพแรงงาน กับผู้ที่ไมได้อยู่ในสหภาพแรงงาน ผมเองก็ไม่ต้องการที่จะอยากผ่าเหล่าหรอกนะก็ต้องตามน้ำไป แม้กระนั้นลูคัสก็ได้ดูแลผมตลอดตอนที่บรรยายเสียงนะ สำหรับผมมัน เย่ เขานี่ช่างดีมากมาย”แม้กระนั้นด้วยปัญหาสหภาพแรงงาาน ทั้งยังลูคัสรวมทั้งโอลด์แมนจำเป็นต้องแยกย้ายจากกัน งานบรรยายก็เลยกลายเป็นมาหน้าที่ของ มาธิว วูด แทน
แต่ว่าถึงจะพลาดการร่วมงานในแฟรนไชส์สตาร์วอร์สไป แม้กระนั้นปี 2005 ก็ถือว่าเป็นปีทองคำของ เอ็งปรี่ โอลด์แมน เนื่องจากว่าในปีนั้นเขาก็ได้หน้าที่สำคัญที่ผู้ชมจำได้แม่นโน่นเป็น สายสืบ จิม กอร์ดอน ใน Batman Begins ที่บรรลุเป้าหมายอย่างยิ่ง เป็นการเปิดตัวตรีภาค Dark Knight ได้อย่างงดงาม แล้วในช่วงปลายปีเดียวกัน โอลด์แมนก็มีอีกหน้าที่หนึ่งที่เป็นที่จำ ซึ่งก็คือ สิริอัส กางล็ก Sirius Black ใน Harry Potter and the Goblet of Fire อีกภาคที่บรรลุผลสำเร็จอย่างยิ่ง ด้วยจำนวน 896 ล้านเหรียญ ด้วยการบรรลุเป้าหมายทั้งคู่หัวข้อนี้ ก็คงจะทำให้โอลด์แมนเลิกรู้สึกเสียดายที่คลาดโอกาสร่วมงานในแฟรนไชส์ Star Wars ไปได้เลยล่ะ