รถไฟบ้า มือสังหารรั่ว เร็วๆมึนๆนัวๆดีที่ไม่ตกราง
‘Bullet Train’ หรือในชื่อไทย ‘ระห่ำด่วน ขบวนมือสังหาร’ หนังแนวแอ็กชันหัวมมีดี้สีสันจัดจ้าเรื่องปัจจุบันของ โซนี่ พิกพบร์ส (Sony Pictures) และก็ โคลัมเบีย พิกพบร์ส (Columbia Pictures) ภายหลังที่ค่ายได้ประกาศการการถือเอามังงะมีชื่อเสียง ‘One Punch Man’ มาทำเป็นภาพยนตร์คนแสดง (Live Action) ก็มีหนังประเด็นนี้ล่ะครับผม ที่โซนี่เลือกจับเอาความเป็นประเทศญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัย อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของโซนี่มาเล่าเป็นศูนย์กลาง เนื่องจากเป็นการถือเอาการราวจากหนังสือนวนิยายประเทศญี่ปุ่นมาดัดแปลงเป็นหนังแอ็กชันระดับฮอลลีวูด บล็อกบัสเตอร์ แถมยังเอาการรถไฟหัวกระสุน หรือรถไฟ ‘ชิงกังเซน’ มาเล่าด้วย
โดย แซ็ก โอลเกวิคซ์ (Zak Olkewicz) ผู้เขียนบทภาพยนตร์ประเด็นนี้ ดัดแปลงแก้ไขบทมาจากเรื่องราวในหนังสือนวนิยายแนวแอ็กชันของประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า ‘Maria Beetle’ (2010) ผลงานของ อิซากะ วัวทาโร (Kotaro Isaka) ซึ่งเรื่องเริ่มแรกเป็นการเล่าการดวลกันของมือสังหารบนรถไฟชิงกังเซน ซึ่งหากคนใดกันหากต้องการหามาอ่านก่อนดูหนัง ก็สามารถติดต่อสถานที่พิมพ์ผ้ากำมะหยี่ สอบถามหาหนังสือเล่มนี้ฉบับแปลไทยในชื่อว่า ‘รถไฟสายมือสังหาร’ หนังสือลำดับที่ 2 ในชุด ‘ตรีภาคมือสังหาร’ จากนักเขียนผู้เดียวกันได้เลยครับผม
หนังหัวข้อนี้ได้ผู้กำกับสายแอ็กชันอย่าง เดวิด ลิตช์ (David Leitch) มากำกับให้ขอรับ ที่พูดว่าสายแอ็กชันเพราะงานของเขานี่เด่นไปทางหนังแอ็กชันระดับบล็อกบัสเตอร์ทั้งหมดเลย ตั้งแต่ ‘John Wick’ (2014) (ดูแลร่วมกับ แชด สตาเฮลสกี (Chad Stahelski)) ‘Atomic Blonde’ (2017), ‘Deadpool 2’ (2018) และก็ ‘Fast & Furious: Hobbs & Shaw’ (2019)
และไม่รู้ดีว่าบังเอิญหรือตั้งมั่น เนื่องจากว่าผู้แสดงนำฝ่ายอย่าง กางรด พิตต์ (Brad Pitt) รวมทั้ง แซนดรา บุลล็อก (Sandra Bullock) ที่เคยเจอะกันไปแล้วในหนัง ‘The Lost City’ (2022) ก็หวนกลับมาเจอะกันอีกรอบในหนังหัวข้อนี้ด้วยครับผม คราวที่แล้ว พิตต์ไปรับเชิญให้หนังของบุลล็อก คราวนี้บุลล็อกก็เลยมารับเชิญชวนให้หนังของพิตต์บ้าง ซึ่งอันที่จริงแล้วแรกเริ่มบทนี้เป็นของ เลดี กาก้า (Lady Gaga) แต่ว่าเสียดายที่ตารางงานพี่สาวเอ็งไปชนกับ ‘House of Gucci’ (2021) เสียก่อน
เรื่องราวย่อๆของหนังประเด็นนี้ เกี่ยวกับเรื่องราวของมือสังหารชายหนุ่มนาม ‘เลดี้บัก’ (Brad Pitt) (ชื่อน่ารักน่าเอ็นดูมุ้งมิ้งเชียว (555) เลดี้บักเป็นมือสังหารประสบการณ์โชกโชน แม้กระนั้นชอบเจอกับจังหวะชีวิตเฮงซวย พบเรื่องดวงกุดอยู่เป็นประจำก็เลยต้องการจะพักงาน สงบจิตใจ ไปเที่ยวเมืองประเทศญี่ปุ่นบ้างอะไรบ้าง แต่ว่าแล้วเขาเองก็จำต้องจำยอมรับภารกิจจาก ‘มาเรีย บีเทิล’ (Sandra Bullock) ให้ไปฉกกระเป๋าปัญหาใบหนึ่งบนรถไฟหัวกระสุนชิงกังเซน
แม้กระนั้นแทนที่จะฉกแล้วชิ่งออกมากล้วยๆแปลงเป็นว่า เขากลับติดอยู่ในขบวนรถไฟชิงกังเซนความเร็วสูงสุด 600 กม.ต่อชั่วโมง ที่มีจังหวะพักสั้นมากมาย แถมยังพักทีละไม่ถึงนาที แถมเขาเองยังก็จะต้องพบว่า ขบวนรถด่วนคันนี้มิได้เพียงแค่เร็วปกติแต่ว่ายังเร็วทะลุแดนนรก เนื่องจากเต็มไปด้วยมือสังหารติดอยู่แรกเตอร์แปลกๆทั้งยัง ‘แทนพบรีน’ (Aaron Taylor-Johnson) รวมทั้ง ‘เลมอน’ (Brian Tyree Henry) มือสังหารแฝดผลไม้ (ฝาแฝดโลกไหนว้า)
‘วูลฟ์’ (Bad Bunny) มือมีดชาวเม็กซิโกสุดเข้ม ‘พรินซ์’ (Joey King) พระราชโอรสมือสังหารในร่างเด็กสาว (?) ‘คิมุระ’ (Andrew Koji) มือสังหารผู้มีความประสงค์ชำระแค้น ‘ผู้เฒ่า’ (Hiroyuki Sanada) คุณลุงกระบี่ซามูไร (ชิเหน๋…)’ไวต์เดธ’ (Michael Shannon) ยากูซ่าสมญาพญายมขาว แล้วก็น้อน ‘โมโมมอน’ (Momomon) มือสังหารในคราบเปื้อนมาสคอต (!) ถึงแม้พวกเขาจะมีเป้าหมาย และก็ความแค้นไม่เหมือนกัน รถไฟขบวนนี้เลยเปลี่ยนเป็นขบวนฆ่าความเร็วสูง เพราะว่าพวกเขาต่างก็มีเป้าหมายและก็จุดหมายเดียวกันอย่างน่าบังเอิญ
อย่างแรกที่สัมผัสได้ตอนดูหนังประเด็นนี้ก็คือ ตัวหนังมิได้เพียรพยายามจะบังคับพวกเราให้เป็นหนังแอ็กชันเครียดๆในเหตุการณ์ปิดตายที่หนีตรากตรำอะไรขนาดนั้นครับผม แต่ว่าตัวหนังอุตสาหะจะเป็นหนังแอ็กชันหัวมมีดี้ที่ซัดกันด้วยพล็อตที่ออกจะสลับซับซ้อน จังหวะการเล่าเรื่องแบบเอามัน เอาเบียว เอาฟั่นเฟือนเข้าว่า และก็ฉากแอ็กชันถึงเลือดถึงเนื้อ ร่ำรวยคำหยาบสไตล์เรตอาร์ แล้วก็มุกตลกขบขันที่ขนมาทุกเรตทั้งยังมุกสวย มุกไม่สุภาพ รวมทั้งแน่ๆว่าควรมีมุกจิกแซะวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่น (ซึ่งบางมุกนี่ก็แอบเชยสลัดอยู่เช่นเดียวกัน)
ตัวหนังในองก์แรก เอาจริงเอาจังๆนับว่าย่อยไม่ง่ายเลยจ๊ะขอรับหากเปรียบเทียบกันหนังแอ็กชันปกติ เพราะเหตุว่าตัวหนังนั้นเกือบจะมีจังหวะการเล่าเรื่องเป็นของตนเอง รวมทั้งเป็นการเล่าที่เหลือร้ายมาก เพราะเหตุว่าเป็นการเล่าแบบไม่แคร์อะไรใดๆก็ตามต้องการเล่าอันไหนก็เล่า อันไหนไม่ถึงเวลาก็ยังไม่เล่า ก็เลยทำให้ตัวหนังเล่าอย่างกระชับ พาผู้ชมค่อยแกะเงื่อนคลายใจความสำคัญ เชื่อมโยงเรื่องราวและก็ความเกี่ยวเนื่องของผู้แสดงให้ผู้ชมเบาๆรู้เรื่องไปทีละน้อยๆ ในระหว่างที่ตัวหนังก็ทิ้งเงื่อนเอาไว้ให้สงสัยกันเอาเอง กระทั่งหนังจะกลับมาเฉลยคำตอบเงื่อนนั้นอีกที ที่ไหนที่สงสัยหนังก็ตามมาเก็บกลับเกือบจะหมด ซึ่งโน่นก็เรียกร้องพลังการตั้งมั่นมองอยู่เช่นเดียวกัน ถ้าเกิดเผลอหลับป๊อกไปสักนาทีนี่เป็นตกขบวนแน่ๆ
แต่ว่าถึงอย่างงั้น ตัวหนังก็นับว่ามิได้ดำเนินเรื่องไวครับ ตรงกันข้าม ตัวหนังค่อนไปทางพองด้วย เนื่องจากพอสมควรหนังถูกวางให้เป็นหนังแอ็กชันหัวมมีดี้ที่ย้ำความบ้า ฮา เบียว อื่นๆอีกมากมาย ตัวหนังก็เลยพากเพียรจะทีเล่นทีจริง แบบที่คงจะได้แรงจูงใจมาจากหนังแอ็กชันจังหวะเล่ามันๆสไตล์ กาย ริชชี (Guy Ritchie) แล้วก็สบโอกาสแอ็กชันชั่วร้ายเลือดสาด จังหวะอัดแรงๆและก็บทพูดยาวๆก็บางทีอาจเปรียบเทียบ ชักชวนให้รำลึกถึงหนังของพ่อ เควนติเตียนน ตารันว่ากล่าวโน (Quentin Tarantino) ได้อยู่เช่นกัน
โดยยิ่งไปกว่านั้นจังหวะสับรางเล่าใกล้กันเพื่อคลายเงื่อนภูมิหลังของแต่ละ Conflict ของผู้แสดง ที่นักเขียนคิดว่ามันยาวยืดมากจนเกินความจำเป็น กระทั่งพาให้หนังจังหวะพอง เนือยในบางจังหวะไปเลย ยังดีที่หลายๆส่วนประกอบของหนังทั้งยังการแสดง ฉากแอ็กชันโหดเหี้ยมบันเทิงใจสาแก่ใจ ความกวนทีนของผู้แสดง แล้วก็เงื่อนเรื่องที่ขมวดปมเชิญให้สงสัยอยากรู้ แล้วก็เล่าออกมาได้ในจังหวะที่ส่วนตัวมากมายๆและก็การถ่ายทำ มุมกล้องถ่ายรูปที่หวือหวาแปลกดี มันบางทีอาจจะเป็นหนังแอ็กชันที่มิได้มองง่าย แล้วก็จะต้องให้เวลา มอบโอกาสสำหรับการปะติดปะต่อในตอนแรกจำนวนมากหน่อย แม้กระนั้นพอเพียงต่อติดได้และก็วิ่งฉิวแบบรวดเดียวสิ้นสุดกันยาวๆไปเลย
อีกจุดที่นักเขียนถูกใจก็คือ การนำเสนอเรื่องในธีมของความบังเอิญ ชะตาชีวิต ดวงดีโชคร้ายของคนนี่แหละ โดยมีนักฆ่าเลดี้บักเป็นศูนย์กลาง ก่อนที่จะเบาๆขยายออกไปเป็นธีมของเรื่องที่มาขมวดตอนองก์ท้ายที่สุดได้อย่างน่าดึงดูดเลยล่ะ หากว่าในอีกมุมหนึ่ง มันก็อาจจะเป็นผลให้พล็อตนิดหน่อยกำเนิดอาการทำแล้วก็จบกันแบบเอาง่าย เอาบังเอิญเข้าว่า ขนาดจุดหักมุมด้านหลังเรื่องก็ยังหักกันด้วยความบังเอิญเลย ซึ่งค่อนข้างจะเล่นท่าง่ายไปสักนิด แม้กระนั้นพอเพียงซูมออกมามองภาพรวมก็เพียงพอจะเข้าหัวใจได้ว่าตัวประเด็นนั้นบากบั่นเจตนาจะเล่นกับชะตากรรมของผู้แสดงหลายๆตัวตามธีมของหนังต่างหาก
อีกส่วนประกอบที่หนังหัวข้อนี้ทำเอาไว้ได้ดิบได้ดีก็คือ การออกแบบผู้แสดงแล้วก็ Conflict ต่างๆครับผม เรียกว่าเป็นการวางแบบนักแสดงที่มิได้เพียงแค่เอาเพียงแค่ความเบียว มึน เน้นย้ำความเฮี้ยนบ้าละเอียดแต่อย่างเดียว รู้เรื่องว่าตัวหนังเองก็เอาลักษณะเด่นนี้มาจากต้นฉบับหนังสือนวนิยายด้วยล่ะ น่าเชื่อถือว่าคนที่มองถูกสงสัยในนักแสดงบางตัวที่มองล้นๆงงเต็กๆหรือมาแป๊บ) ว่า ไอ้นี่มันมาเพราะเหตุไรวะ ? ไอ้โน่นเป็นคนไหนกันแน่วะ ? เสมือนคนเขียนอย่างแน่แท้ พอใช้เรื่องราวเบาๆจับมือพวกเราแนะนำตัวไปทีละเล็กละน้อย ถึงค่อยร้องอ้อว่ามาเพราะอะไร
ส่วนในทางของการแสดงนับว่าโดยรวมก็โอเคครับผม กางรด พิตต์ (Brad Pitt) นี่ แม้กระทั่งรุมยำหรือโดนรุมยำก็ยังหรู แถมพี่มึงยังเล่นแอ็กชันเอง 95% เชียวนะ อีกนักแสดงที่เด่นมากมายๆก็คือคู่คิดผลไม้ ‘เลมอน-แทนพบรีน’ นะครับ อันนี้เรียกว่ากวงท้วงติงกันตั้งแต่ค้างแรกเตอร์ ไตอะล็อก และก็แอ็กแย้งเลย ส่วนอีกผู้ที่โก้เก๋โคตรๆเป็น MVP ของเรื่องก็คือคุณลุง ฮิโรยุกิ ซานาดะ (Hiroyuki Sanada) นะครับ เท่มากๆแม้กระนั้นจะ “ชิเหน๋…” หรือเปล่า อันนี้จะต้องไปดูกันเอาเอง
เว้นแต่ตัวหนังเลือกที่จะย้อมประเทศญี่ปุ่นให้มีความไซเบอร์พังก์ (ซะเหมือนกับเกม) เป็นช่วงแรกนักเขียนก็แอบหวั่นหวาดๆว่า งาน VFX จะไปรอดมั้ยเนี่ย ซึ่งหัวข้อนี้ หากแม้ตัวหนังเองจะย้ำถ่ายทำข้างในขบวนเสียเป็นส่วนมาก แม้กระนั้นก็มีช็อตโชว์ด้านนอกขบวนไปด้วยเป็น Cutaway ซึ่งอันนี้ล่ะที่จะต้องอีกทั้งดูทั้งยังติว่า ช็อตหนังที่เริ่มเรื่องยามค่ำคืนนั้นทำเป็นออกจะดี แม้กระนั้นมาตายตอนช็อตตอนกลางวันตอนเข้าองก์ที่ 3 นี่เป็นลอยกันมองเห็นๆซึ่งเอาจริงเอาจังๆมันก็เป็นจุดตายของงาน VFX ตามธรรมดาที่ซีนช่วงเวลากลางวันชอบทำยากกว่าซีนค่ำคืน ก็เลยลอยๆตามงบประมาณ 90 ล้านเหรียญของหนังนั่นแหละขอรับ
โดยรวมแล้ว ‘Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนมือสังหาร’ นี่เป็นหนังที่เกิดมาสำหรับคอแอ็กชันวินาศสันตะโรที่เบื่อพล็อตเรียบล่ะครับผม เนื่องจากว่าตัวหนังเล่าได้ร้ายกาจมากมายๆปู ชง เก็บได้อย่างมีกลเม็ดเด็ดพราย รวมถึงยังพรีเซ็นท์ความฮา มึน ฟั่นเฟือนของเหล่ามือสังหารได้แบบโบ๊ะบ๊ะ มีมุกฮาให้ได้ขำเล็กน้อย (ที่บางอันก็เช้ยเชย) เล่าธีมชีวิตเฮงซวยได้น่ากล่าวสรรเสริญ ส่วนฉากแอ็กชันก็ดุเด็ดเผ็ดมันไม่ทิ้งลายผู้กำกับ ‘John Wick’ ถ้าหากไม่นับจังหวะแวะข้างถนนพองๆหนังประเด็นนี้ก็จัดว่าคงจะถูกอกถูกใจคอแอ็กชันได้ง่ายๆ ถ้าหากเป็นรถไฟสักขบวน คันนี้ก็น่าจะเป็นรถไฟหัวกระสุนใบหน้าแปลกที่ย้ำวิ่งเอาเร็วไว้ก่อน มีมึนๆสับสนๆง่วงนอนๆบ้าง แม้กระนั้นมันบันเทิงใจตรงที่มันวิ่งเร็วโคตรๆนี่แหละ