ย้อนกลับมาการกำเนิดของ หนังอสูรกาย Kaiju บนโลกแผ่นฟิล์มถ่ายรูป
ภาพยนตร์อสูรกายนั้นเกิดมานานแล้ว ถ้าหากให้บรรยายเป็นระยะเวลาก็เกือบจะนับเป็นชั่วลูกชั่วหลานได้เลย โดยหนังชนิดอสูรกายนั้น ถูกต่อยอดมาจากภาพยนตร์แนวทางพิเศษอีกครั้ง ซึ่งการมีอยู่ของหนังพวกนี้ก็ได้สร้างผลดีให้แวดวงภาพยนตร์มากมายก่ายกอง เนื่องจากว่าครั้งใดก็ตามมอนสเตอร์ตัวใหม่เกิดมา มันก็ตามมาพร้อมเคล็ดลับพิเศษที่ช่วยเปลี่ยนแปลงแวดวงแผ่นฟิล์มถ่ายรูปอยู่ตลอด
ถ้าเกิดจะกล่าวถึงภาพยนตร์ที่เกี่ยวพันกับอสูรกายในใจของพวกเรา แน่ๆว่าหนังมอนสเตอร์ยักษ์จากประเทศญี่ปุ่น หรือที่พวกเรารู้จักกันในชื่อว่า ‘หนังไคจู (Kaiju)’ นั้น น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับที่หนึ่งที่แว่บเข้ามาในหัวของทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย หากว่าตัวประหลาดบนแผ่นฟิล์มถ่ายรูปหลายตัวจะมีเอกลักษณ์ที่เด่นและก็น่าจำกัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า ไคจู ชอบกรุ๊ปที่ครอบครองใจผู้ชมอย่างแน่นแฟ้นเสมอ
เอ็ม พิคพบร์ส วางระบุฉาย “What to Do with the Dead Kaiju?” กึ่งกลางพ.ค.นี้ | JEDIYUTH
ไคจู เป็นศัพท์ของประเทศญี่ปุ่น แสดงว่าตัวประหลาดขนาดใหญ่โตมโหฬาร โดยสมัยเก่าชอบใช้อ้างอิงถึงตำนานสิ่งมีชีวิตโบราณของประเทศญี่ปุ่น ในสมัยถัดมา เมื่อประเทศญี่ปุ่นเริ่มก้าวหน้ามิตรภาพกับต่างแดน คำว่าไคจูก็เลยขยายไปให้เกี่ยวเนื่องถึงสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์รวมทั้งสิ่งมีชีวิตในตำนานจากทั่วทั้งโลก จนถึงมาถึงปัจจุบันไคจูได้ถูกใช้เป็นคำจำกัดความ อันคืออสูรกายขนาดใหญ่ที่ออกมาเพื่อทำลายอาคารบ้านช่อง แล้วก็ถูกจำในฐานะจำพวกของหนังท้ายที่สุด
พวกเราคงจะไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า โกจิระ หรีอ ก็อดสิลล่า (Godzilla) เป็นราชาวลีอสูรกายที่มีชื่อเสียง จนถึงเปลี่ยนเป็นภาพจำของหนังไคจูไปโดยปริยาย ซึ่งผู้คนจำนวนมากก็มีความคิดว่าก็อดสิลล่านั้นเป็นหนังมอนสเตอร์เรื่องแรกใช่ไหมล่ะ คำตอบเป็นไม่ถูก ก็อดสิลล่านั้นไม่ใช่หนังมอนสเตอร์เรื่องแรกอะไร เพียงแค่ก็อดสิลล่าเป็นหนังที่ทำให้นิยามของคำว่าไคจูเด่นขึ้นมา แล้วก็เนื้อหานี้จะพาคุณมาเจาะลึกไปถึงประวัติความเป็นมาของหนังไคจูกัน
ย้อนกลับไปในตอนสมัย 30 ยุคนั้นผู้คนตื่นเต้นเป็นอันมากที่ The Lost World (1925) นำเหล่าไดโนเสาร์ให้กลับมามีชีวิตบนจอภาพยนตร์ด้วยเคล็ดลับสตอปโมชัน (วิธีที่ผู้ผลิตจำต้องสร้างแบบจำลองขึ้นมารวมทั้งทำให้แบบจำลองนั้นมีชีวิตได้ด้วยการขยับครั้งละเฟรม) และก็ถัดมาภาพยนตร์อย่าง King Kong ก็ได้ต่อยอดเคล็ดวิธีนี้มาใช้ ประสมประสานด้วยหุ่นมายากลแอนิมันข้นรอนิกส์จนถึงทำให้ผู้ชมตื่นตกตะลึงถึงเจ้าลิงยักษ์นี้ บ่อยมาจนกระทั่ง The Beast from 20,000 Fathoms นั้นก็ยังคงใช้วิธีนี้อยู่ พูดได้ว่ายุคทองของหนังตัวประหลาดในอเมริกามีหัวหัวใจหลักเป็นแนวทางสตอปโมชันเลยล่ะ
โทโมยูกิ ทานากะ (Tomoyuki Tanaka) โปรดิวเซอร์ของ Toho Studios ผู้เป็นแฟนตัวยงของหนังมอนสเตอร์ ภายหลังที่เขาได้มีความคิดเห็นว่าตัวประหลาดในฮอลลีวูดนั้นทำเป็นดีแค่ไหน ทานากะก็เลยต้องการทดลองสร้างภาพยนตร์ตัวประหลาดของตนขึ้นมาบ้าง ซึ่งทานากะก็หมายมั่นปั้นมือว่านี่จะเป็นโปรเจกต์ยอดนิยม ด้วยเหตุว่าสมัยนั้นหนังตัวประหลาดของอเมริกาเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นมากมาย โดยผู้ชมต่างเดินตบเท้าเข้าโรงมาเพื่อดูความสนุกสนานในโลกไซไฟ ซึ่งทานากะถูกใจไอเดียที่ The Beast from 20,000 Fathoms นั้นมีรายละเอียดที่เกี่ยวเนื่องกับตัวประหลาดที่ถูกปลุกจากอาวุธปรมาณู เขาก็เลยใช้แรงจูงใจนี้สำหรับการสร้างภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับไคจูที่เกิดจากผลพวงของอาวุธปรมาณู
KAIJU-JAPANISM — Father of Godzilla
โทโมยูกิ ทานากะ
ในเวลาถัดมา ทานากะได้นำโปรเจกต์นี้ไปเสนอกับ Toho Studios แล้วก็ได้รับไฟเขียวสำหรับการผลิตภาพยนตร์ไคจูประเด็นนี้ ซึ่งก็ยอมดวงใจ Toho Studios ในความกล้าหาญได้กล้าเสียนี้ เนื่องจากในตอนนั้น Toho เป็นบริษัทที่ผลิตเพียงแค่ซีรีส์ ภาพยนตร์ที่เกี่ยวเนื่องกับการทำศึก แล้วก็ละครเวทีเป็นส่วนมาก ดังนั้นแล้วการที่พวกเขาจะสร้างภาพยนตร์ไคจูเป็นของตนเองก็เลยนับว่าเป็นความนึกคิดที่บ้าระห่ำพอควร
สุดท้าย ทานากะก็เก็บกลุ่มของตนมาได้ โดยมีผู้กำกับเป็น อิชิโระ ฮอนดะ (Ishirō Honda), พ่วงด้วยผู้ที่มีความชำนาญด้านสเปเชียลเอฟเฟกต์อย่าง เอจิ สึบูรายะ (Eiji Tsuburaya), ผ่านการเขียนบทของ ชิเงรุ คายามะ (Shigeru Kayama) แล้วก็ทาเคโอะ มูราตะ (Takeo Murata), ร้องเพลงเพลงประกอบที่เป็นตำนานโดย อากิระ อิฟูกูเบะ (Akira Ifukube) ซึ่งณ เวลานั้น พวกเขาคิดเพียงแค่ว่าจะทำโปรเจกต์ที่มักใหญ่ใฝ่สูง โดยไม่ทราบเลยว่าหนังหัวข้อนี้จะเปลี่ยนเป็นตำนาน ที่ถูกบันทึกไว้ภายในหน้าประวัติศาสตร์
Creator Close-Up – Kaiju Battle
เอจิ สึบูรายะ
หากว่าณ ตอนนั้นอสูรกายในอเมริกาจะใช้เคล็ดลับสตอปโมชัน เพื่อทำให้มอนสเตอร์ของพวกเขาเคลื่อนได้ แต่ถ้าว่าเออิจิ สึบุรายะ ผู้พัฒนาด้านสเปเชียลเอฟเฟกต์นั้นมองเห็นต่างออกไป ด้วยเหตุว่าเขาต้องการทำให้ไคจูของพวกเขา มองเป็นสิ่งมีชีวิตด้ามจับจะต้องได้ ซึ่งโตโฮนั้นก็ทำละครเวทีและก็มีพวกฉากย่อขนาดในละครเวทีอยู่แล้วเยอะแยะ สึบุรายะก็เลยตกลงใจใช้ฉากย่อขนาดสำหรับในการสร้างเมืองขึ้นมาแทน รวมทั้งเพื่อไคจูของพวกเขามองเบิกบานใจ สึบุรายะก็เลยสร้างตัวประหลาดจากชุดยางรวมทั้งให้ดาราอยู่ภายใน โดยให้ดาราหนังเดินไปบริเวณฉากย่อขนาดเพื่อสร้างภาพของสิ่งมีชีวิตตัวนี้ให้มีขนาดยักษ์ขึ้นมา
คณะทำงานสร้างหนังประเด็นนี้ ช่วยเหลือกันปลุกปั้นตัวประหลาดขึ้นมาด้วยเวลาไม่ถึงหนึ่งปี พวกเขาเรียกมันว่าโปรเจกต์ ‘โกจิระ’ ซึ่งเป็นการรวมคำว่ากอริลลาแล้วก็คำภาษาประเทศญี่ปุ่นของวาฬปะทุจิระเข้าด้วยกัน โดยหนังยังแอบแฝงสัญญะที่ถ่ายทอดความน่าขนลุกของอาวุธปรมาณูผ่านไคจูออกมา รวมทั้งในปี 1954 หนังหัวข้อนี้ก็ได้รับการเข้าฉายแล้วก็โลกก็รู้จักกับ ‘โกจิระ’
Gojira (1954) | Alamo Drafthouse Cinema
โกจิระ
โกจิระได้สร้างผลพวงที่ยิ่งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ ชุดยางของพวกเขาทำให้ไคจูบนจอมองมีชีวิต อสูรกายในชุดยางมองมีเลือดเนื้อและก็น่าละลานตากว่าแบบสตอปโมชัน จนถึงโกจิระแปลงเป็นเป็นที่ยอมรับของอเมริกาและก็มันถูกเรียกว่า ‘ก็อดสิลลา’ ถึงแม้ตัวประหลาดของอเมริกาจะออกมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ก่อนประเทศญี่ปุ่นหลายสิบปี แม้กระนั้นโชคร้ายที่พวกมันไม่เคยถูกคิดว่าเป็นภาพยนตร์ไคจูเรื่องแรกเลย ซึ่งน้องเล็กที่โผล่มาคราวหลังอย่างก็อดสิลลาก็ได้รับสมญานามภาพยนตร์ไคจูเรื่องแรกตามไปด้วย และก็จบที่ก็อดสิลลาถูกจำด้วยนามสมมุติว่า ‘กษัตริย์ที่อสูรกาย’
งานสเปเชียลเอฟเฟกต์ของสึบุรายะ ได้สร้างฐานรากให้วัฒนธรรมภาพยนตร์ในประเทศญี่ปุ่น กระทั่งเปลี่ยนเป็นภาพจำของมอนสเตอร์ในชุดยาง แม้ว่าจะมีการใช้ CGI แล้วก็สตอปโมชันมาช่วยอยู่บ้าง แต่ว่าภาพยนตร์ไคจูจำนวนมากที่ถูกผลิตขึ้นในประเทศญี่ปุ่นก็ยังนิยมใช้ชุดยางเป็นหลักอยู่ดี นอกเหนือจากการปฏิรูปแวดวงแล้ว สุนทรียศาสตร์ของสึบุรายะก็ยังทรงอิทธิพลต่อภาพยนตร์อสูรกายรุ่นหลาน จนกระทั่งทำให้คำว่า ‘ไคจู’ แปลงเป็นแรงผลักดันในหลายบริบท เช่น ไดไคจู ที่ไว้ใช้เรียกไคจูขนาดยักษ์หรือมีความมากมายหลากหลายกว่าเดิม, ไคจิน จุดหมายถึงไคจูที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แม้กระนั้นเป็นขนาดยักษ์, อุลตร้า-ไคจู ซึ่งใช้เรียกเชื้อสายไคจูที่โผล่มาในอุลตร้าแมน, เซจิน เป้าหมายถึงเผ่าพันธ์ุต่างดาว
ไทจู เป็นอสูรกายในรูปภาพยนตร์เรื่อง บ่อน้ำรอยแดง
โดยในฝั่งของอเมริกาก็ยังมีการบัญญัติศัพท์ของไคจูเพื่อใช้ในสื่ออื่นๆเป็นต้นว่า ไคจู ใน Pacific Rim ที่กำหนดถึงอสูรกายยักษ์ในเรื่อง โดยเป็นการทับศัพท์เพื่อแสดงถึงความเคารพนับถือ, ไททันส์ ใน Monsterverse จุดมุ่งหมายถึงเหล่าสัตว์แปลกรวมทั้งอดสิลลาของค่าย Legendary แล้วก็ทางด้านไทยพวกเราก็มีบัญญัติศัพท์ใหม่อย่าง ไทจู ขึ้นมา ซึ่งสื่อความหมายถึงอสูรกายในรูปภาพยนตร์เรื่อง บ่อน้ำรอยแดง แต่ว่าไม่ว่าไคจูจะถูกแปรไปกี่บริบท พวกเราก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่าคำศัพท์ทุกสิ่งนั้นได้แรงผลักดันมาจากไคจูรวมทั้งเป็นถูกใช้เพื่อแสดงความเคารพนับถือถึงภาพยนตร์มอนสเตอร์ของประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน