ประเด็นนี้สุนัขตาย ทราบไหมว่าบทเริ่มแรกนั้นสุนัขไม่ตายแม้กระนั้นก็สะเทือนขวัญไม่แพ้กัน
ผู้ตายได้ แม้กระนั้นสุนัขอย่าตาย นี่เป็นความรู้สึกของบรรดาคู่รักเจ้าตูบ ที่คิดเห็นเช่นเดียวกันขณะดูหนังไม่ว่าเรื่องใดก็ตามที หากมีน้องสุนัขโผล่มา เป็นจำต้องได้ลุ้นทุกครั้ง ว่า “สุนัขอย่าตาย” ถ้าหากสุนัขไม่ตายก็จะดีมากกว่า มองถัดไปด้วยรอยยิ้มเพลิดเพลินใจ แม้กระนั้นถ้าหากเรื่องไหนสุนัขตาย ก็จำเป็นต้องมองไปอีกทั้งน้ำตา ด่าทอผู้เขียนบทไป ว่าเพราะเหตุไรถึงเหิมใจร้ายกับเจ้าตูบ ดังเช่นว่า ‘I Am Legend’ หนังขายชื่อเสียง วิล สมิธ (Will Smith) ปี 2007 หนึ่งในหนังโปรดของคนชอบดูหนังแอ็กชันคนจำนวนไม่น้อย เล่าราวของ โรเบิร์ต เนวิลล์ ผู้ชายที่บางทีก็อาจจะเป็นมนุษย์คนในที่สุดบนโลก ข้างหลังเชื้อไวรัสแพร่ไป แปลงผู้ติดเชื้อโรคให้เปลี่ยนเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่เรียกว่า “Darkseeker” เขาจำต้องเผชิญภัยเอาชีวิตรอดในโลกอันทารุณไร้มนุษยธรรมนี้พร้อมทั้งสุนัขเยอรมันเชปเพิร์ดคู่ใจ ชื่อว่า ‘ซาแมนธา”
พวกเราได้มองเห็นเนวิลล์จำต้องเอาชีวิตรอดในโลกอันโหดร้ายทารุณไปวันๆจำต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดจากเหล่า Darkseeker โดยมีแซมรอช่วยเหลือเนวิลล์อยู่ไม่ห่าง แซมมีหน้าที่สำคัญอยู่ 2 องก์แรกของหนัง แล้วพวกเราๆคู่รักหมาก็จำต้องพบเจอกับภาพบนหน้าจอที่ต่างลุ้นมาตลอดว่าไม่อยากที่จะให้แซมจะต้องจบกับโชคชะตาแบบงี้ เมื่อแซมออกไปสู้กับกลุ่มสุนัข Darkseeker เพื่อช่วยเหลือเนวิลล์ แล้วผลก็คือมันจำเป็นต้องติดโรคเพราะว่าโดนกัด เนวิลล์ที่เศร้าใจอย่างซาบซึ้ง ด้วยเหตุว่าเพื่อนฝูงเพียงแต่ตัวเดียวกำลังจะจากไป เขากอดแซมไว้ตลอดกระทั่งระหว่างที่มันกำลังจะกลายพันธุ์เป็นสุนัขภูติผี แล้วต้องการุณยฆาตมันทั้งยังน้ำตา ซึ่งผู้ชมก็เสียน้ำตาพอกันนั่นแหละ
ฉากที่แซมตาย
ถึงแม้ว่า I Am Legend จะปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากนิยายคลาสสิกของ ริชาร์ด แมตธีสัน (Richard Matheson) ที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1954 แม้กระนั้นรายละเอียดในนิยายก็มิได้ใจจืดใจดำขนาดนี้ ในนิยายมีการเอ๋ยถึงสุนัขตัวหนึ่งเพียงแค่ช่วงสั้นๆเป็นสุนัขจรจัดไมมีชื่อ ที่เนวิลล์มองเห็นมันเพ่นพ่านอยู่บ้านใกล้เรือนเคียง แล้วเนวิลล์อุตสาหะช่วยเหลือมันไว้ แม้กระนั้นในที่สุดมันก็ไม่รอดชีวิต ซึ่งเป็นสุนัขที่ไม่มีหน้าที่อะไรมากเท่าไรนัก และไม่สร้างความสัมพันธ์กับนักอ่านเท่าไรนัก แม้กระนั้นไอเดียที่ขยับให้หมาในเรื่องมามีหน้าที่เดินคู่กับเนวิลล์นั้นมาจาก มาร์ก โพรโทเซวิช (Mark Protosevich) คนรับหน้าที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงนิยายมาเป็นบทภาพยนตร์ ซึ่งเขาเขียนไว้ตั้งแต่ปี 1995 นู้นเลย แม้กระนั้นก็ยังไม่มีสตูดิโอใดพึงพอใจถือบทประเด็นนี้ไปสร้าง
มาร์ก โพรโทเซวิช
บทในเวอร์ชันของโพรโทเซวิชนั้นมีไม่เหมือนกันจากบทร่างท้ายที่สุดที่ได้สร้างเป็นหนังเป็นอย่างมาก เพราะว่ากว่าหนังจะมาถึงวิธีการท้ายที่สุดบทก็ถูกแก้ไปอย่างยิ่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นสุนัขของโพรโทเซวิชนั้นเป็นสุนัขเพศผู้และไม่มีชื่อ รวมทั้งไม่ตายด้วย แม้กระนั้นจุดที่เช่นเดียวกันก็คือ โดนหมากลายประเภทกัดรวมทั้งติดโรค แม้กระนั้นเนวิลล์เลือกที่จะปลดปล่อยมันไป รวมทั้งหายไปจากเรื่องราวจวบจนกระทั่งฉากจุดไคลแมกซ์ด้านหลังเรื่อง เมื่อเนวิลล์รวมทั้งบรรดามนุษย์ผู้รอดตายหนี DarkSeeker มาจนตรอกที่ท่าเรือ นับเป็นเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นชักชวนลุ้นระทึกอย่างยิ่ง เมื่อหัวหน้าทีม Darkseeker เผยตัวขึ้น พร้อมกับสมัยก่อนสุนัขคู่ใจของเนวิลล์ที่วันนี้มันได้เปลี่ยนเป็นจ่าฝูงหมากลายประเภทไปแล้ว ในช่วงเวลาที่กรุ๊ป Darkseeker และก็ฝูงหมากลายจำพวกกำลังจะพุ่งเข้าเล่นงานกรุ๊ปมนุษย์ผู้มีชีวิตรอด เจ้าสุนัขของเนวิลล์ก็กำเนิดจำกลิ่นของเนวิลล์ขึ้นมาได้ ทำให้มันกลับใจไม่รังควานสมัยก่อนนายของมัน แล้วหันไปกีดกันกรุ๊ป DarkSeeker ให้ย้อนกลับไป แล้วยืนขวางจนกระทั่งเนวิลล์และก็มนุษย์ผู้รอดตายหนีไปได้โดยสวัสดิภาพ หลังจากนั้นมันก็ยืนมองดูเนวิลล์จากริมฝั่ง พร้อมด้วยอุปการะนหอนอย่างโหยหวน ก่อนที่จะวิ่งกลับไปรวมกลุ่มกับฝูงของมัน
อกิวา โกลด์สแมน คนใจมาร เขียนให้แซมตาย
แม้กระนั้นเมื่อหนังออกฉาย แล้วบรรดาแฟนสุนัขต่างก็ไม่ชอบใจกับเคราะห์กรรมของแซม ซึ่งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็ไปต่อว่าต่อขาน มาร์ก โพโทรเซวิช ว่าใจจืดใจดำกับสุนัขเพราะเหตุไรถึงเขียนเรื่องออกมาแบบงี้ ซึ่งโพโทรเซวิชได้ขอชี้แจงในระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ Money Into Light ว่า ฉากที่แซมตายนั้น มิได้เป็นไอเดียของเขา แม้กระนั้นเป็นของ อกิวา โกลด์สแมน (Akiva Goldsman) มือเขียนบทอีกผู้ที่สตูดิโอว่าจ้างมาแก้บทต่อจากเขาอีกครั้ง แล้วก็เป็นนักเขียนให้แซมตาย บทที่เขาเขียนนั้นอีกทั้งเนวิลล์รวมทั้งแซมต่างก็รอดทั้งสอง หากว่าแซมจะแปลงเป็นหมากลายจำพวกในช่วงท้ายก็ตาม แล้วบทของเขาก็จบตบท้ายแบบปลายเปิดว่า ในที่สุดแล้วเชื้อสายมนุษยชาติก็ยังคงอยู่ แม้กระนั้นจะต้องดำรงชีวิตร่วมกับเหล่า DarkSeeker ถัดไป
ส่วน แอ็บบี้ เจ้าสุนัขตัวจริงที่สวมบทเป็น แซม นั้น ได้ปลดเกษียณอายุจากงานเป็นศิลปินสุนัข ไปดำเนินชีวิตสุขอยู่กับ สตีฟ เบเรนส์ (Steve Berens) ครูฝึกหมา ซึ่งเขารักและก็ดูแลแอ็บบี้อย่างดีเยี่ยม ภาพข้างบนนั้นเป็นภาพปัจจุบันเมื่อปี 2018 ในช่วงเวลาที่แอ็บบี้อายุได้ 13 ปี ไม่มีข่าวล่าสุดว่าวันนี้แอ็บบี้ยังคงมีชีวิตอยู่ไหม ถ้าเกิดยังอยู่ก็เป็นสุนัขแก่อายุ 17 ปีแล้วล่ะ