เบียวผ้าวาไรตี้ผีหมกกบมันก็ยังเกาะเกี่ยวความสยองขวัญ ตำนานผี
ภาพยนตร์เรื่อง ‘ผ้าผีบอก’ นับว่าเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 5 ของ ค่าย ‘ไอแอมฟิล์มถ่ายรูป’ (iAM Films) ภายใต้ขึ้นอยู่กับ ‘iAM’ (Independent Artist Management) หรือบริษัทผู้ดูแลวงไอดอล ‘BNK48’ ที่ปีที่ผ่านมาบรรลุผลสำเร็จจาก ‘Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือไม่’ (2562) ที่คว้า 6 รางวัลสุพรรณหงส์มาได้ รวมถึง ‘ห้าวเป้งคะ อย่าแกงน้อง’ (2564) สารคดีแนว Candid เรื่องแรกของ ‘CGM48’ มาถึงปีนี้ หลักการการผลิตหนังของ iAM Films ก็ยังคงน่าดึงดูดนะครับ อย่างที่มีความคิดเห็นว่า ค่ายเองก็เพียรพยายามจะหาส่วนประกอบใหม่ๆให้กับภาพยนตร์ แม้ว่าจะมองโยนหินถามทางไปสักนิด แต่ว่าก็ถือได้ว่าเป็นการเสิร์ฟอะไรใหม่ๆให้แฟนๆแล้วก็ผู้ชมหนังอยู่เรื่อยตั้งแต่ส่วนประกอบแบบหนังอินดี้ (Where We Belong) การกล่าวหาเป็นอีสานบ้านเฮาใน ‘ไทบ้าน x BNK48 จากหัวใจผู้สาวคนนี้’ (2563) หรือการใส่ส่วนประกอบแนวแคนดิดใน ‘ห้าวเป้งคะ อย่าแกงน้อง’ (2564) ในรูปภาพยนตร์ปัจจุบันอย่าง ‘ผ้าผีบอก’ หัวข้อนี้ก็เหมือนกัน ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่แม้ว่าจะยังมิได้ถึงกับฉุดกระชากฟีลจากไทบ้านมากสักเท่าไรนัก เพราะเหตุว่าตัวหนังก็ยังถือเอาวัฒนธรรมภาคเหนือ–อีสานมาประยุกต์ แม้กระนั้นที่น่าดึงดูดก็คือ ส่วนประกอบสูตรนี้ มาจากโปรดิวเซอร์อย่าง ‘มะลำพัง–ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล’ แล้วก็ได้ ‘อั้ม-ณัฐดงษ์ ใกล้รุ่งเนตร์’ ดาราหนังจากภาพยนตร์ของพี่มะคนเดียว ทั้งยัง ’13 เกมสยดสยอง’ (2549), ‘ฝัน หวาน อาย จูบ’ (2551) แล้วก็ ‘หลุดสี่หลุด’ (2554) รวมทั้งเคยผ่านงานไม่วสิกวิดีโอของทั้งยัง BNK48 รวมทั้ง CGM48 มานั่งแท่นผู้กำกับคราวแรก
เรื่องราวของหนังจะเล่าย้อนยุคไปเมื่อ 1,000 ปีกลาย พระมหาเทวีศรีมอย แม่ของ ‘เจ้าหลวงรังสิมันต์’ (หยิ่น- อานนท์ หว่อง) เจ้าผู้ครองนครเวียงไชยเชษฐ์บุรี ได้จัดแจงแข่งขันทอผ้าขึ้น เพื่อเลือกมเหสีมาเป็นเจ้านางคู่บัลลังก์ เนื่องจากว่าเจ้าผู้ครองเมืองท่านทรงพระขอคืนดีงแง้ง ไม่ยินยอมเลือกมเหสีสักครั้ง แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นว่า ‘อัญญานางหอมนวล’ (วี– วีรยา จาง) ที่นครผางาม หนึ่งในผู้แข่งขันทอผ้าในคราวนั้น กลับถูกรัดคอตายอย่างลึกลับในระหว่างทอผ้า โดยที่ไม่รู้จักว่าผู้ใดกันเป็นคนก่อเหตุถัดมาในช่วงปัจจุบัน ‘บักคูณ/อชิ’ (วอร์ – วนรัตน์ รัศมีรัตน์) หัวหน้ากลุ่มถ่ายรายการผีออนไลน์ ได้ไปสัมผัสผ้าโบราณผืนหนึ่งที่บ้านของยายทวด วิญญาณของอัญญานางหอมนวลก็เลยเผยตัว เพื่อตามหาผู้ร้ายที่ฆ่านาง โดยมีผู้ต้องสงสัยเป็นเจ้านางองค์อื่นๆที่ร่วมต่อสู้แข่งขันทอผ้า อีกทั้ง ‘เก็ดถะวา’ (โมบายล์-พิมรภัส รักษาวัฒนะโชค), ‘สะบันงา’ (ปูกระเป๋า–จิรดาภา อินทจักร) แล้วก็ ‘สาระปี’ (ดีเยี่ยม–ไม่ลิน ดอกเทียน) พ่วงมาด้วยเราประจำตัวอย่าง ‘คำเคิบ/วีว่า’ (จีจักจี้– ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล) ร่วมเป็นผู้ต้องสงสัย การพิสูจน์หาฆาตกรจากสมัยพันปีกลายก็เลยจำเป็นต้องเริ่มขึ้น ก่อนที่จะอชิรวมทั้งพวกต้องพบเจอกับอาถรรพณ์ครั้งใหญ่ในความเป็นจริงแล้วตัวพล็อตเองมีความน่าดึงดูดใจล่ะครับ เพราะเหตุว่านับได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่แปลกใหม่ดีสำหรับภาพยนตร์ไทยเลยล่ะ โดยยิ่งไปกว่านั้นส่วนประกอบของ “คอมมีดี้-สยองขวัญ–พีเรียด–ภาคเหนือ–ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” แถมยังจับเรื่องตำนานพื้นเมือง ผสมกับทางของละครแนวจักรๆตระกูลๆที่มองโบราณ แต่ว่าบอกมิได้ว่าอยู่ในช่วงไหน เป็นเพียงแต่โลเคชันสมมุติที่ละเอาไว้ภายในฐานที่รู้เรื่อง (เฉยๆว่าเป็นล้านนา) แอบเย้าแหย่นิยายพีเรียดผ้าผลงานของ ‘พงศกร’ รวมทั้งมีแนวทางของหนังสไตล์ Whodunit (ไผฆ่าหอมนวล ) แถมยังบวกไซไฟนิดๆโรแมนติกหน่อยๆด้วย
นั่นแหละครับผม เริ่มได้กลิ่นแล้วใช่ไหมนะครับว่าตัวหนังจะออกมาเป็นยังไง ใช่ขอรับ มันออกมากาวมากมาย การ์ตูนโคตรๆถึงแม้ตัวหนังในตอนเริ่มต้นบากบั่นจะปูเรื่องให้พวกเรารู้สึกน่าสะพรึงกลัว รู้สึกถึงความขาดความกรุณาปรานีของผู้ที่ฆ่าหอมนวล แม้กระนั้นต่อไปตลอดทั้งความยาวหนัง 100 นาที มันก็เปลี่ยนเป็นความกาว ราวกับกำลังมองอนิเมะอะไรอย่างนั้นเลยขอรับ เป็นถ้าหากผู้ใดกันที่จะมองเอาความสยดสยอง มองความ Whodunit ต้องการเป็นสายสืบปัวโรต์ ไรงี้ ขอให้เลิกความนึกคิดนั้นซะเลยคะขอรับเป็นดูแล้วจะทราบเลยขอรับว่า อันที่จริงแล้วตัวหนังเองก็ยังอุตสาหะจะวางพล็อตเรื่องให้สลับซับซ้อนราวกับเวลาพวกเราดูหนัง Whodunit รวมกับการเล่าเรื่องบาปแต่ว่าอดีตชาติ ที่แต่ละคนล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างบังเอิญไปด้วย แต่ว่าเพราะเหตุว่าตรรกะรวมทั้งพฤติกรรมของนักแสดงนี่เป็นแบบเมิงจะไม่เอาจริงเอาจังอะไรกันซักอย่างบ้างเลยเรอะ (555) ทุกความประพฤติปฏิบัติ เหตุผลของนักแสดง ล้วนเป็นไปเพื่อความกาวล้วนๆแถมนักแสดงยังมีพลังพิเศษ ก็ยิ่งมองเบียวเข้าไปอีก
ผลที่เกิดก็คือ ตัวหนังก็เลยออกมาเบียวแบบไร้ขีดจำกัดจริงๆครับผม ซึ่งมันรื่นเริงแล้วก็ฮาด้วยความเบียวและก็ความอีหยังวะของมันจริงๆทุกความประพฤติในบทหรือด้นสด นี่เป็นคิดและก็ตามด้วยความ Realistic มิได้จริงๆยิ่งเล่าไปเรื่อยราวกับกลุ่มเขียนบทมันมือ ยิ่งกล่าวร้ายเบียว ความเหวอแตกรุนแรงขึ้นไปเรื่อยซึ่งบางอันก็ได้ผล ดูแล้วก็ยังพอเพียงจะฮาไปกับความวิกลจริตบอของมันได้ แม้กระนั้นบางอันก็ดูเหมือนจะฝ่าฝืนๆอยู่เช่นเดียวกัน จนกระทั่งไคลแม็กซ์ด้านหลังๆนี่เป็นเวรี่เบียวจนถึงเหวอแตกคอกันไปเลย แม้กระนั้นก็นั่นแหละขอรับ เนื่องจากว่าตัวหนังมันก็ติดเล่น และก็มานะเหวี่ยงพวกเราไปทางเบียว เหวอแตก กระทั่งเกือบจะเปลี่ยนเป็นหนังคัลต์ของ BNK48 แทรกแก้มันด้วยพาร์ผายลมราม่าซึ้งๆที่ตัวบทขมวดปมไว้แล้วเก็บกลับก้าวหน้า แต่ว่าไอ้ความเล่นๆมันก็แปลงเป็นข้อคิดเห็นได้เช่นกัน ด้วยเหตุว่าบทที่ดูเหมือนจะดีไซน์มาราวหนึ่ง แต่ว่าพอเพียงมัวแต่เหวอไปกับความเบียวมากมายๆใจความของเรื่องก็เลยมองเปลี่ยนเป็นการสอนแบบปกติไปเสียแบบงั้น รวมทั้งบทและก็การเรียบเรียงเรื่องราวในบางจุดดูเหมือนจะยังตรวจงานไม่เรียบร้อยเท่าไรนัก เลยทำให้การเล่าเรื่องบางพาร์ตยังมองมึนๆไม่เข้าที่เข้าทางไปด้วย แล้วก็ยังทิ้ง Plot Hole ไว้จำนวนมากแทบทั้งยังเรื่องเลย
ในด้านของการแสดง ในหลายๆเรื่องที่มี BNK48 พวกเราชอบมองเห็นปัญหาของการเฉลี่ยหน้าที่ของเมมเบอร์ที่จะหนักเฉพาะเมมเบอร์บางบุคคล หรือการที่เมมเบอร์รับบทบาทในหนังบางเรื่องได้ไม่เข้าปากเข้าบท แม้กระนั้นกับหนังประเด็นนี้ จะต้องยกย่องว่าสามารถแก้เกมตรงจุดนี้ได้ออกจะดีนะนะครับ บางครั้งก็อาจจะเนื่องจากปริมาณเมมเบอร์+หยิ่นวอร์+กลุ่มกลุ่มรายการผีนั้นนับว่าพอดี ไม่มากมายเกิน สามารถเฉลี่ยเครื่องปรับอากาศไทม์ได้ค่อนข้างจะดีเลยรวมทั้งที่สำคัญที่เป็นเสน่ห์ของหนังประเด็นนี้ก็คือ การพัฒนาบทจากติดอยู่แรกเตอร์ของเมมเบอร์แต่ละคน ที่นับว่าออกจะสำเร็จเลยล่ะนะครับ สามารถถือเอาเสน่ห์ของแต่ละคน และก็แทรกความขำขันออกมาได้น่าดึงดูด ซึ่งแฟนๆคงจะพอสมควรออกขอรับว่าค้างแรกเตอร์ไหนที่เอามาจากตัวเมมเบอร์จริงๆรวมทั้งโน่นก็ทำให้การแสดงของ BNK48 จัดว่าโตขึ้นไปอีกระดับ แต่ว่าถ้าเกิดจะให้ชูเป็น MVP ของเรื่อง ก็อาจจะจำเป็นต้องชูให้คู่ของ ‘หอมนวล’ (วี BNK48) รวมทั้ง ‘บักคูณ’ (วอร์ วนรัตน์) ตัวพระนางหลักของเรื่อง ที่งานนี้นับว่ามีความน่ารักน่าเอ็นดูเชื้อเชิญจิ้น วอร์เล่นได้อีกทั้งบทฮา ซึ้ง โรแมนติก ส่วนน้องวีก็จัดว่างามและก็ขึ้นกล้องถ่ายรูปมากมายจริงๆครับผม เรียกว่างานนี้ #วอร์วี จำต้องมาละครับผม
โดยสรุป ‘ผ้าผีบอก’ นี่เป็นหนังคัลต์ หรือจะเรียกมันว่าเป็น ‘หอพักตุ๊ดแตก’ เวอร์ชัน BNK48 ก็ได้ เพราะว่ามันอุดมไปด้วยความวาไรตี้ครบรส ที่ใช้ความเบียวขั้นสุด ความกาว ล่อฮากันแบบไม่ต้องเกรงอกเกรงใจผู้ใดกัน ในเวลาเดียวกัน และก็ความรื่นเริงใจแบบจักรๆสกุลๆมาสับๆผสมจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นหนังผีเฮฮาที่เหมาะสมกับการถอดสมองระหว่างมอง เสมือนกำลังนั่งรับประทานหมกกบอยู่หน้าฮ่านอปิ้งไรก็อย่างงั้นเลยนะครับ