มากมายกว่าน้ำฝนก็อารมณ์ผู้ชมนี่แหละ
หากแม้ผ่านมา 4 ปีที่นั้นแต่ว่าสถานะการณ์หยุดโลกอย่างภารกิจช่วยเหลือเยาวชนกลุ่มบอลหมูป่าแล้วก็ผู้ฝึกสอนเอกรวม 13 คนออกมาจากถ้ำหลวงก็ได้เปลี่ยนเป็นเรื่องราวสุดไม่น่าเชื่อที่เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต่างหาทางเอามาบอกในแบบของตนโดยมี ‘The Cave นางนอน’ ภาพยนตร์ไทยฝรั่งควบคุมของ ทอม วอลเลอร์ (Tom Waller) ผู้กำกับที่ผลิตภาพยนตร์ไทยอย่างสม่ำเสมอบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของกลุ่มมุดน้ำฝรั่งในภารกิจนี้ออกฉายพร้อมดราม่ารอบสื่อที่ท่านอดีตกาลผู้ว่าราชการจังหวัดวอล์กเอาต์แล้วก็ต่อว่าต่อขานหนังอย่างหนัก ออกฉายนำร่องไปก่อนแล้วในปี 2019 แล้วก็ในปีนี้ ‘Thirteen Lives’ อีกหนึ่งหนังจากเหตุนี้ก็ได้กาลฉายทางสตรีมไม่งสมาชิกใหม่อย่าง Prime Video ในวันนี้
ถ้าเทียบกับ ‘The Cave นางนอน’ แล้วสิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ใช้เป็นพล็อตเรื่องก็มีนิดหน่อยที่ทาบซ้อนกันสนิททั้งยังเรื่องของนักประดาน้ำอังกฤษที่หนังเรื่องแรกใช้เป็นตัวละครหลักสำหรับเพื่อการเดินเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักประดาน้ำชื่อคริส ที่มีในหนังอีกทั้ง 2 เรื่อง แต่ว่าสิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ดูเหมือนก้าวผ่านกับเรื่องเล่าจากข้อเท็จจริงเป็นการที่หนังมุ่งพรีเซ็นท์ ‘อารมณ์’ นักแสดงเป็นศูนย์กลาง กระทั่งฉากเปิดเรื่องที่แม้ว่าจะมีฉากเตะบอล ฉากหยุดรถจักรยานหน้าถ้ำแล้วเดินเข้าไปเช่นกัน แม้กระนั้นหนังก็ทำให้มองเห็นความเป็น “มนุษย์” มากยิ่งกว่าความเป็น “บุคคลในข่าวสาร” แบบในหนังเรื่องแรก รวมทั้งเมื่อหนังได้พรีเซ็นท์นักแสดงฝั่งไทยอย่าง นายณรงศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายตอนนั้นและก็คณะทำงานนิดหน่อยอย่างกลุ่มวิศวกรน้ำที่มีส่วนช่วยสำหรับการผันน้ำออกมาจากถ้ำไปแล้ว การที่หนังไปจุดโฟกัสนักแสดงนักประดาน้ำในถ้ำอย่าง ริค และก็ จอห์น พร้อมปูสถานะที่แตกต่างเมื่อข้างแรกเป็นหนุ่มโสดป้ายประกาศตัวว่ามิได้ถูกใจเด็กด้วยกับฝ่ายหลังที่เป็นบิดาที่มีลูกชายพร้อมแนวความคิดที่เกือบจะไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิงก็สร้างความดรามาว่ากล่าวกให้เรื่องราวที่ถูกหุ้มห่อด้วยข่าวสารที่คนทั่วโลกรู้อยู่แล้วได้อย่างพอดี
รวมทั้งการใช้บริการดาราระดับเอลิสต์อย่าง วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) รวมทั้ง วัวลิน ฟาเรลล์ (Colin Farell)มาแสดงเป็นริคแล้วก็จอห์นนี่แหละนะครับเป็นการดึงให้หนังสามารถหว่านล้อมอารมณ์ผู้ชมได้โดยไม่ลืมเลือนที่จะเอ๋ยถึงบริบทห้อมล้อมทั้งยังภารกิจผันน้ำที่เอาความเสียสละของเกษตรกรในพื้นที่มาสร้างอารมณ์ดราม่าชักชวนน้ำตาซึมให้หนังได้อย่างพอดี หรือจนถึงภารกิจของนายสิบแซมที่ได้เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ มารับหน้าที่สำคัญก็เป็นการให้เกียรติกับความเสียสละของวีรบุรุษได้แบบที่คนประเทศไทยเองก็ไม่เห็นว่าหนังไปโปรต่างขาติเตียนราวกับ ‘The Cave นางนอน’ ได้อย่างสะอาดงาม ซึ่งในรูปภาพรวมเว้นเสียแต่บทหนังที่ถูกเขียนอย่างรัดกุมโดย วิลเลียม นิโคลสัน (William Nicholson) ที่เล่าราวได้รอบด้านและก็เปี่ยมอารมณ์แล้ว การได้ผู้กำกับมากมายความสามารถอย่าง รอน โฮเวิร์ด (Ron Howard) ที่ชำนาญแนวทางการทำหนังจากข้อเท็จจริงมาตั้งแต่ ‘Apollo 13’ ในปี 1995 ซึ่งกับ ‘Thirteen Lives’ โฮเวิร์ดก็ยังโชว์ความสามารถได้จัดจ้าประสานดราม่าผสมกับข้อมูลจริงได้อย่างพอดีมากมายๆแล้วก็ที่สำคัญมากเป็นโฮเวิร์ดใส่หัวใจแบบชาวไทยลงไปในเรื่องราวด้วยเลยทำให้ภาพรวมของหนังมิได้เนยนมเสียจนถึงกลบความกลมกล่อมแล้วก็มีรสชาติแบบไทยๆพลาดท่าเดียว
มองเห็นได้จากการที่หนังใช้ภาษาไทยสำหรับในการเดินเรื่องถึง 60% รวมทั้งการนำเสนอพิธีบูชาความเลื่อมใสแบบไทยๆที่ถูกถ่ายทอดได้อย่างพอดีผ่านงานถ่ายรูปของ สยมภูเขา มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพคนประเทศไทยที่ถ่ายทอดอีกทั้งความสวยสดงดงามของภูมิทัศน์ ความไร้มนุษยธรรมชักชวนลุ้นระทึกใต้น้ำในถ้ำแล้วก็ภาพสุดดรามาติเตียนกของการรวมดวงใจของคนทั่วทั้งโลกในพื้นที่เกิดเหตุ ภายใต้การออกแบบงานสร้างที่บันดลให้พื้นที่ถ่ายทำในประเทศออสเตรเลียเปลี่ยนเป็นถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนได้แนบเนียนไม่น้อยซึ่งส่วนหนึ่งส่วนใดก็เป็นฝีมือคนประเทศไทยอย่าง สราวุฒิ เคยชินรุ่งเรือง โปรดักชันดีไซเนอร์มือต้นๆของไทยไปร่วมกลุ่มกับทาง มอลลี ฮิวจ์ส (Molly Hughes) ดีไซเนอร์หลักของหนังกระทั่งทำให้งานสร้างของหนังออกมาเหมือนจริงแนบเนียนจนกระทั่งมองเกือบจะไม่รู้เรื่องเลยว่าหนังไปถ่ายทำกันถึงออสเตรเลีย
ถ้าเกิดจะกำหนดหาข้อด้อยของหนังจริงๆก็ดูเหมือนทำให้ผมเป็นคนขี้บ่นเล็กๆน้อยๆไปเลยครับผมเนื่องจากปัญหามันมีเพียงว่าการที่หนังไปถ่ายทำในประเทศออสเตรเลียและก็จะต้องใช้ดาราประกอบคนประเทศไทยในพื้นที่ที่บางบุคคลก็กล่าวภาษาไทยด้วยสำเนียงฝรั่งแต่ว่าก็หลุดมาไม่มากมายครับผม มิหนำซ้ำการที่จำเป็นต้องเทรนให้ชาวไทยในประเทศออสเตรเลียอู้กำเมืองก็ยิ่งทำให้มองเห็นความมานะบากบั่นเสียด้วยซ้ำ เรียกกล้วยๆว่าปัญหาของหนังเป็นเพียงแต่ผงที่พัดพาสัมผัสดวงตาแม้กระนั้นไม่เคืองอะไรขอรับ